“มีปัญหาจากคุณแสงวัฒน์ ขวัญยืน มาด้วยตนเองครับ ‘มีการดำเนินกิจการเกี่ยวกับสื่อหรือโทรทัศน์ไหมขอรับ’ เดี๋ยวนี้บริษัทยังไม่มีการดำเนินงานอะไรก็ตามครับ ก็คอยผลคดีให้หมดก่อนครับผม” คำตอบจาก คิมห์ สิริทวีชัย ประธานคณะกรรมการบริษัท ITV บาคาร่า

เปิดผังตัวละครคดี ‘หุ้นสื่อ ITV’ เมื่อสื่อดังบางทีอาจฟื้นอีกรอบ

คลิปที่เปลี่ยนเป็นข้อความสำคัญร้อนข้ามคืน ข้างหลัง ฐปณีย์ เอียดศรีไชย นักข่าวรายการข่าวสาร 3 มิติ เอามาเผยในรายการ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า คำบอกเล่านั้นไม่เหมือนกับในบันทึกรายงานการประชุมผู้ถือหุ้น ITV 

ซึ่งบันทึกคำตอบนั้นไว้ว่า “เดี๋ยวนี้ยังดำเนินกิจการอยู่ ตามเป้าหมายของบริษัท แล้วก็มีการส่งงบการเงินแล้วก็ยื่นแบบภาษีรายได้นิติบุคคลตามธรรมดา”

การสัมมนานั้นจัดขึ้นตอนวันที่ 26 ม.ย.ก่อนหน้าที่ผ่านมา และก็เปลี่ยนมายอดเยี่ยมในหลักฐานสำคัญต่อคดีนักการเมืองมีหุ้นสื่อของ พิธา ลิ้มก้าวหน้ารัตน์ แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคก้าวหน้า 

ซึ่งตอนแรก เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ จากพรรคพลังประชาชนเมือง นำบันทึกการสัมมนานี้มาเป็นหลักฐานสำหรับเพื่อการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

แต่ว่าประเด็นนี้มิได้มีตัวละครเพียงแค่ 1-2 คนแค่นั้น กลับพันพัวไปถึงหลายภาคส่วน The MATTER เลยขอสรุปแผนผังผู้แสดงในประเด็นนี้ เพื่อรู้เรื่องได้อย่างง่ายว่า ผู้ใดกัน ทำอะไรบ้าง ในคดีนี้

ขอเริ่มเล่าคดีนี้จากการที่เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ จากพรรคพลังประชากรเมือง ยื่นคำร้องให้ กกต.สำรวจคดีมีหุ้นส่วนสื่อของ พิธา ลิ้มรุ่งเรืองรัตน์ ตอนวันที่ 10 พ.ค. ก่อนหน้าวันลงคะแนนเสียงทั่วๆไป 4 วัน 

โดยคำขอบอกว่า ขอให้ตรวจดูว่าการที่พิธา ผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อแล้วก็แคนดิเดตนายกฯของพรรคก้าวหน้า มีลักษณะต้องห้ามสำหรับการสมัครรับเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ห้ามนักการเมืองมีหุ้นสื่อ หรือเปล่า สล็อตออนไลน์

ซึ่งเมื่อผู้รายงานข่าวถามเรืองไกรว่า ได้รับข้อมูลมาจากไหน เจ้าตัวก็ตอบว่าได้เค้าเงื่อนมาจากนักการเมืองคนหนึ่ง แต่ว่าไม่ขอระบุชัดเจนว่าเป็นใครกันแน่

การเคลื่อนไหวนี้ทำให้คนเชื่อมโยงไปกับในกรณีที่ นิกม์ แสงสว่างศรีนาวิน จากพรรคกระหยิ่มใจไทย สมัยก่อน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนาคตใหม่ 

โพสต์เฟซบุ๊กช่วงวันที่ 24 ม.ย.ก่อนหน้านี้ว่า ITV กำลังจะสัมมนาผู้ถือหุ้นสื่อในวันที่ 26 ม.ย. พร้อมกล่าวว่าหัวหน้าพรรคการบ้านการเมืองหนึ่งมีหุ้นส่วน ITV 42,000 หุ้น ให้จัดแจงมอบตัวกับ กกต.

แล้วหลังจากนั้น ผลของการลงคะแนนในวันที่ 14 พ.ค. ก็ปรากฏว่า พรรคที่ได้ปริมาณที่นั่ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเยอะที่สุดเป็นพรรคก้าวหน้า ซึ่งมีพิธาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แล้วต่อจากนั้น 

คดีหุ้นสื่อก็เริ่มเป็นที่จำเป็นต้องจับตาของสังคมมากเพิ่มขึ้นว่า จะเป็นจุดสกัดดาวรุ่งของพิธาไหม

จำเป็นต้องพูดว่า กระแสสังคมในทีแรกๆต่างเห็นว่า ITV เลิกเป็นสื่อไปนานแล้ว คำขอนี้คงจะทำอะไรพิธามิได้ แม้กระทั้งตัวพิธาเองก็ยืนกรานว่า ประเด็นนี้ไม่ทำให้เกิดผลเสียต่อทางการเป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุว่าเขามีหุ้นส่วนในชื่อ ‘ผู้จัดการมรดก’ ไม่ใช่ถือในชื่อส่วนตัว

แต่ว่าประเด็นนี้เริ่มจะรุนแรงขึ้น เมื่อมีการเผยแพร่บันทึกการสัมมนาผู้ถือหุ้นซึ่ง แสงสว่างวัฒน์ ขวัญยืน ผู้ถือหุ้น ITV ที่ตั้งปริศนาในห้องประชุมว่า ‘มีการดำเนินกิจการเกี่ยวกับสื่อโทรทัศน์ไหม?’

แสงวัฒน์เป็นคนใดกัน? สำนักข่าวชัดแจ๋วลึกกล่าวว่า เขาเป็นผู้จัดการคลินิคนวลจันทร์ ซึ่ง พล.ตำบลท.ดร.สิทธิเดชะ แสงสว่างศรีนาวิน อดีตกาลหมอโรงหมอตำรวจ ตอนนี้เป็นเจ้าของสถานพยาบาลนวลจันทร์ แล้วก็เป็นพ่อของนิกม์นั่นเอง ส่วนปัจจัยที่แสงวัฒน์เป็นผู้ถือหุ้นได้นั้น 

นิกม์รายงานในรายการข่าวสาร 3 มิติว่า รู้จักกับ แสงวัฒน์ซึ่งเป็นรุ่นน้องในสถานที่ทำงาน และก็ได้โอนหุ้น ITV ของที่นิกม์เคยถืออยู่ให้กับแสงวัฒน์ ก่อนที่จะนิกม์จะสมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสำหรับการลงคะแนน 2566

กลับมาที่การสัมมนาผู้ถือหุ้นสื่อ คำตอบจากบันทึกการสัมมนาในแบบเอกสารที่ออกมาทีแรกๆ บอกว่า “เดี๋ยวนี้บริษัทยังดำเนินกิจการอยู่ ตามเป้าประสงค์ของบริษัท และก็มีการส่งงบการเงิน และก็ยื่นแบบภาษีรายได้นิติบุคคลตามเดิม”

ประโยคนี้ถูกตีความหมายไปหลากความหมาย อย่างสมชัย ศรีสุทธิยากร สมัยก่อน กกต.ที่คิดว่า โน่นมีความหมายว่า ITV ยังเป็นสื่ออยู่ ในตอนที่ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ 

นักวินิจฉัยข่าวมีชื่อ พูดว่าจุดมุ่งหมายของ ITV มีทั้งหมดทั้งปวง 45 ข้อ ก็เลยไม่บางทีอาจกล่าวได้แจ่มกระจ่างว่าคำบอกเล่านั้นจะแสดงว่า ITV ยังคงเป็นสื่ออยู่

ระหว่างที่ บนเอกสารบันทึกการสัมมนาผู้ถือหุ้น ITV นั้นมีลายเซ็นบุคคล 2 ผู้รับรองเอาไว้ ตัวอย่างเช่น จิตชาย มูสิกลูก ผู้ตัดสินผู้ตรวจทานแล้วก็ปรับปรุงของ ITV รวมทั้ง คิมห์ สิริทวีชัย ประธานคณะกรรมการบริษัท ITV

ช่วงแรกมิได้มีผู้ใดกันพอใจ 2 ชื่อนี้มากแค่ไหนนัก แต่ว่าเมื่อคืนนี้วันที่ 11 เดือนมิถุนายน รายงานจากข่าวสาร 3 มิติ กลับเผยคลิปบันทึกการสัมมนาผู้ถือหุ้น ITV ที่ได้มาจากผู้ถือหุ้นรายหนึ่ง ซึ่งคำตอบของปริศนาเดียวกันนั้น 

กลับกำหนดไว้ไม่เหมือนกับเอกสารบันทึกการสัมมนาว่า “ขณะนี้บริษัทยังไม่มีการปฏิบัติงานใดๆก็ตามครับผม ก็รอคอยผลให้คดีจบก่อนครับ”

เมื่อคลิปเผยแพร่ออกมา ก็มีเสียงวิภาควิจารณ์แตกออกเป็นสองฝ่าย ทั้งยังข้างที่ยกย่องแนวทางการทำงานของข่าวสาร 3 มิติ แล้วก็เพศผู้มีหุ้นคนนั้น ที่เปิดข้อมูลสำคัญให้สามัญชน กับข้างที่เห็นว่าคลิปในรายแขนข่าวสาร 3 มิติ ถูกตัดต่อเนื่องจากมีตอนกระโจนผ่านจังหวะอยู่ 

แม้กระนั้นเรื่องนี้ถูกฐปนีย์ออกมาการันตีด้วยการไลฟ์คลิปเต็มยาว 3 นาทีผ่านสำนักข่าว The Reporters ซึ่งชี้ให้เห็นว่า คลิปในรายการข่าวสาร 3 มิติ เพียงแค่ตัดตอนเดดเครื่องปรับอากาศออกไปเพียงแค่นั้น

การเคลื่อนไหวนี้ ทำให้บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ITV (52.92%) รวมทั้งเป็นผู้ที่ทำเอกสารบัญชีให้กับ ITV ออกรายงานว่าจะตรวจทานการสัมมนาผู้ถือหุ้น ITV ซึ่งมีความไม่เหมือนกันระหว่างคลิปที่เผยแพร่ออกมากับเอกสารบันทึกการสัมมนา 

โดยคนที่เซ็นชื่อในเอกสารการเปิดเผยนั้น ก็คือ คิมห์ สิริทวีชัย ดังเดิม แต่ว่าโอกาสนี้เซ็นชื่อในฐานะผู้ตัดสินผู้อำนวยการของบริษัทอินทัช ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีคนเจอความเกี่ยวข้องว่า จิตชาย มูสิกลูก ก็เป็นผู้ช่วยรวมทั้งหัวหน้าสารงานข้อบังคับของบริษัทอินทัชด้วยเหมือนกัน

นอกเหนือจากนั้น หัวข้อนี้ยังถูกโยงไปถึงบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี เดเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทอินทัชด้วย (41.19%) และก็อีกมูลเหตุที่บริษัทกัลฟ์ถูกกล่าวถึงในคดีนี้ 

เพราะเหตุว่านี่เป็นเยี่ยมในบริษัทที่ถูก รังสิมันต์ โรม จากพรรคก้าวหน้า อภิปรายว่ารับเงินบริจาคมาจากมูลนิธิป่ารอยต่อ ซึ่งเป็นโครงข่ายของ พล.อำเภอประวิตร วงษ์กาญจน์ และก็บริษัทกัลฟ์ก็ยื่นฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจากโรม ในคดีแพ่ง เป็นเงิน 100 ล้านบาท สล็อต

นอกเหนือจากนี้ บริษัทกัลฟ์ยังถูกวิภาควิจารณ์ว่าเป็นบริษัทที่อู้ฟู่มากยิ่งขึ้นในตอนรัฐบาลของ พล.อำเภอประยุทธ์ จันทร์โอชะ 

รวมทั้งที่หลายข้างเห็นว่า ด้วยแนวนโยบายด้านการจัดการพลังงานและก็ลดการมัดขาดจากกรุ๊ปทุนของพรรคก้าวหน้า 

บางทีอาจทำให้เกิดโทษและส่งผลเสียรวมทั้งไม่ดีต่อบริษัทกัลฟ์ ซึ่งเป็นผู้สร้างกระแสไฟของเอกชนรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

คดีนี้ ถูกพิธาวิภาควิจารณ์ว่าเป็นความบากบั่นฟื้นชีวิต ITV ให้กลับมาเป็นสื่ออีกที เพื่อทำร้ายตน ภายหลังที่ ITV เลิกธุรกิจทีวีไปตั้งแต่ปี 2550 แล้ว ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการแก้ชนิดธุรกิจสื่อ จ

ากเมื่อปี 2560 ที่เคยกล่าวว่า ITV มิได้ประกอบกิจการ รวมทั้งส่งผลทดแทนจากเงินทุนและก็ดอกรับ เป็นในปี 2566 กล่าวว่า เป็นธุรกิจจำพวกสื่อโทรทัศน์ ที่มีผลิตภัณฑ์และก็บริการเป็นโฆษณาและก็ผลตอบแทนจากการลงทุนแทน

อย่างไรก็ตาม ตอนวันที่ 9 เดือนมิถุนายนก่อนหน้าที่ผ่านมา กกต.ลงความเห็นให้ตั้งคณะกรรมการเพื่อปฏิบัติงาน ‘สอบสวนถัดไป’ ในกรณีที่มีการกล่าวร้ายว่า พิธามีคุณลักษณะต้องห้ามไม่ให้ลงเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือเปล่า กรณีมีหุ้นสื่อ 

หากแม้สำหรับเพื่อการสัมมนาเดียวกันจะลงความเห็นเอกฉันท์ให้ชู 3 คำขอที่มีผู้ยื่นเรื่องเดียวกันเข้ามา ด้วยเหตุว่าเป็นคำขอที่ยื่นมาเกินช่วงเวลาที่จะสั่งรับคำร้องไว้พิเคราะห์ได้ ตามข้อกำหนดของ กกต. กล่าวถึงการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

โดยเหตุผลที่ กกต.เดินหน้าสอบสวนคดีหุ้นสื่อของพิธาต่อ แม้ว่าจะชู 3 คำขอที่มีผู้ยื่นเข้ามาในเรื่องเดียวกัน เนื่องจากว่าจัดว่ามีเหตุอันควรจะสงสัยหรือความปรากฎ รวมทั้งมีข้อมูลพอเพียงที่จะสืบสวนถัดไปได้ 

ตาม พ.ราชการเปรียญกล่าวถึงการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อีกทั้งมาตรา 42(3) เกี่ยวกับคุณลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับการเป็นเจ้าของสื่อหรือมีหุ้นส่วนสื่อ 

รวมถึงมาตรา 151 รู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งข้อกล่าวหาข้างหลัง มีอัตราโทษจำเรือนจำ 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท รวมทั้งบางทีอาจถูกสั่งให้ยกเลิกสิทธิสำหรับในการลงคะแนนเสียงถึง 20 ปี

นี่นับว่าเป็นเกมยาวที่สามัญชนจำต้องจับตากันถัดไปว่า คดีนี้จะไปจบที่ที่ไหน จะมีตัวละครใดเผยโฉมออกมาอีกบ้าง และก็ที่สุดแล้ว เมืองไทยจะได้มีนาชูฯ ที่ชื่อ พิธา ลิ้มรุ่งเรืองรัตน์ ไหม

ติดตามสอบถามข้อมูล ใน LINE : @redbull999 เพื่อทราบข้อมูลก่อนใคร เช็ดของรางวัล ลุ้นของรางวัลอื่น เพื่อจะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ก่อนใครพร้อมบริการ ทดลองเล่นทุกเกม สมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก สนใจสมัคร คลิ๊กเลย การันตีด้วยเว็บที่มีคุณภาพสูงอย่าง